ภาษาอังกฤษมัธยมศึกษา 5

ภาษาอังกฤษ ม. 5 Compound noun

Compound noun คือ คำสองคำหรือมากกว่ามาประสมกันโดยคำหน้าเป็นคำขยาย คำหลังเป็นคำหลัก เมื่อประสมกันแล้วจะได้ความหมายใหม่และทำหน้าที่เป็นคำนาม โดยรูปแบบการเขียนมีทั้งเขียนติดกัน เขียนแยกแบบมี hyphen (-) คั่น และเขียนแยกแบบไม่มี hyphen (-) คั่น ซึ่ง Compound noun สามารถเกิดได้จากคำหลายประเภทมาประสมกัน ดังนี้


1.1. Noun + Noun เช่น

tooth + paste = toothpaste (ยาสีฟัน)

foot + ball = football (ฟุตบอล)

air + port = airport (สนามบิน)

sun + flower = sunflower (ดอกทานตะวัน)

life + time = lifetime (ตลอดชีวิต, ชั่วชีวิต)


1.2. Noun + Verb เช่น

hair + cut = haircut (ทรงผม, การตัดผม)

car + go = cargo (สินค้า)

moon + walk = moonwalk (ท่าเต้นมูนวอล์ก)

hand + shake = handshake (การจับมือ)

rain + fall = rainfall (ปริมาณน้ำฝน)


1.3. Noun + Preposition เช่น

hanger + on = hanger on  (ไม้แขวนเสื้อ)

son + in + law = son-in-law (ลูกเขย)

mother + in + law = mother-in-law (แม่ยาย)


1.4. Verb + noun : โดย verb จะเป็นรูป v.ing หรือ Gerund เช่น

washing + machine = washing machine (เครื่องซักผ้า)

swimming + pool = swimming pool (สระว่ายน้ำ)

driving + licence = driving licence (ใบขับขี่)


1.5. Verb + Preposition เช่น

look + out = lookout (การระมัดระวัง, การเฝ้าดู)

check + in = check-in (เช็กอิน หรือการลงทะเบียนเข้าพัก)

turn + about = turnabout (การหมุนรอบ, การหันกลับ, การเปลี่ยนแปลงความคิดเห็น)


1.6. Preposition + Noun เช่น

under + world = underworld (ยมโลก, พวกนักเลง)

on + looker = onlooker (ผู้เห็นเหตุการณ์, ผู้ดู, ผู้ชม)


1.7. Adjective + Noun เช่น

gentle + man = gentleman (สุภาพบุรุษ)

black + smith = blacksmith (ช่างตีเหล็ก)

loud + speaker = loudspeaker (ลำโพง, เครื่องกระจายเสียง)

monthly + ticket = monthly ticket (ตั๋วรายเดือน)

common + room = common room (ห้องรวม, ห้องโถงพักผ่อนของนักศึกษา)


1.8. Adjective + Verb เช่น

slow + down = slowdown (การถ่วงงาน)

dry + cleaning = dry-cleaning (การซักแห้ง)


1.9. Preposition  + Verb เช่น

out + put = output (ผลผลิต)

over + throw = overthrow (ความล้มเหลว, การล้มล้าง)


กฎการทำ Compound Nouns เป็นพหูพจน์ (Plural) และแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive)

การทำ Compound Nouns เป็นรูปพหูพจน์ (Plural) นั้นไม่ยากโดยเฉพาะคำที่มี hyphens โดยปกติเราสามารถใส่ ‘s’ ไปที่คำนามได้เลยเช่น daughters-in-law และบางครั้ง ‘s’ จะอยู่ท้ายคำ เช่น go-betweens, higher-ups อย่างไรก็ตามตามแบบฟอร์มแล้วมักจะเติม ‘s’ ที่ท้ายคำนาม เช่น full moons.

การทำ Compound Nouns ให้อยู่ในรูปแสดงความเป็นเจ้าของ (possessive) โดยปกติเราจะเติม apostrophe s (’s) ไปที่ท้ายคำ เช่น son-in-law’s car (รถของลูกเขย) ถ้า Compound word เป็นพหูพจน์เราสามารถเติม ‘s’ และใส่ ’s ได้ แต่จะแปลกนิดหน่อย เช่น daughters-in-law’s attire. ดังนั้นถ้าเป็นไปได้เปลี่ยนประโยคใหม่เป็น the attire of the daughters-in-law. จะดีกว่า เพราะคำประสมที่เป็นพหูพจน์ไม่จำเป็นต้องแสดงความเป็นเจ้าของ

Comment here